วัดไทร บางโคล่ เป็นอีกหนึ่ง วัดในกรุงเทพ ที่อยูู่ใจกลางกรุง และเคยมีประเด็นร้อนแรงเมื่อปี พ.ศ. 2561 เนื่องจากะคอนโดมิเนียมที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ไดทำการร้องเรียนเรื่องการตีระฆังเสียงดัง จนกลายเป็นเหตุให้สำนักงานเขตบางคอแหลมต้องออกหนังสือเตือนกับทางวัด และได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลอยู่เป็นเวลานาน จึงทำให้หลายคนอยากรู้ถึงประวัติความเป็นมา รวมถึงทำความรู้จักวัดแห่งนี้ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งวันนี้ วัดสวยเมืองไทย ได้นำเอามาฝากแล้วครับ
วัดไทร บางโคล่ (กรุงเทพมหานคร)
ประวัติความเป็นมาของวัด
วัดไทร (บางโคล่) เขตบางคอแหลม นั้นตั้งอยู่บริเวณถนนพระราม 3 (ซอยเจริญราษฎร์ 7) แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ จากการสืบสาวประวัติและการบอกเล่าของชุมชน ว่ากันว่าวัดแห่งนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง และสร้างขึ้นในสมัยใด มีแต่หลักฐานที่พอจะนำมาสันนิษฐานประกอบได้โดยดูจากองค์พระพุทธรูปที่มีอยู่ในวิหาร เป็นพุทธรูปประทับยืนปางห้ามญาติ จีวรเป็นดอกพิกุล หรือดูได้จากพระปรางค์หรือเจดีย์ สังเกตจากฝีมือช่างที่ทำการก่อสร้าง มาเปรียบเทียบจะใกล้เคียงกับช่างในสมัยอยุธยาตอนปลาย ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 300 ปี
หลังจากนั้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ช่วงรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ทางวัดไทร บางคอแหลม นั้นก็ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ เรื่อยมา จวบจนกระทั่งเมื่อ พ.ศ. 2440 ก็ได้รับพระราชทานวิสุงคาม สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณวัดได้เล่าว่า ในอดีตวัดแห่งนี้มีความสวยงาม และมีเจดีย์จำนวนมากรายรอบเสมือนรั้วของวัด แต่ทว่ากาลเวลาผ่านไปเจดีย์เหล่านั้นก็ได้พังทลายไปตามกาลเวลา บ้างก็ถูกขุดเพื่อหาสมบัติ บ้างก็เกิดความเสียหายไปตามกาลเวลา แต่ยังคงมีกลิ่นอายของความเก่าแก่หลงเหลืออยู่ไม่น้อย โดยในบริเวณข้างโบสถ์หลังเก่าจะมีต้นมะม่วงอายุมากกว่า 100 ปี ตั้งตระหง่านอยู่
บรรยากาศในวัดมีนั้นความเงียบสงบ ถึงแม้ในปัจจุบันนี้จะถูกรายล้อมไปด้วยชุมชน โรงงาน รวมไปถึงคอนโดที่มาก่อสร้างข้างวัดก็ตาม วัดแห่งนี้ก็ยังคงเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา ทำบุญและกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องของพี่น้องประชาชนในพื้นที่และใกล้เคยอยู่เรื่อยมา
5 สถานที่ที่น่าสนใจภายในวัด
1. มณฑปหลวงปู่พุ่ม
ภายในนั้นจะมีรูปเหมือนของหลวงปู่พุ่ม ซึ่งเป็นพระที่ชาวบ้านต่างให้ความเลื่อมใสและศรัทธากันอย่างมาก ซึ่งท่านถูกยกให้เป็น 1 ใน 10 พระคณาจารย์ของสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หลวงปู่พุ่มท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดไทรหลายปี และท่านยังได้ช่วยพัฒนาวัด ร่วมกับหลวงพ่อสุ่นซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไทรอยู่ในขณะนั้น จวบจนเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2489 คณะสงฆ์และประชาชนชาววัดไทร ได้มีพิธีเททองหล่อรูปเหมือนของหลวงปู่พุ่มขนาดเท่าองค์จริง เพื่อให้สาธุชนได้นมัสการกราบไหว้บูชา ตามคำที่หลวงปู่พุ่มได้พูดกับเหล่าศิษยานุศิษย์ก่อนมรณภาพว่า “เมื่อฉันสิ้น จะมาอยู่ที่นี่”เพราะวัดไทรเป็นวัดที่ร่มรื่น
2. พระอุโบสถเดิม
เป็นที่ตั้งประดิษฐานของพระพุทธรูปสลักหินทรายสีแดง ปางสมาธิ ปางมารวิชัย และพระพุทธรูปทรงเครื่อง ซึ่งคาดการณ์ว่ามีการสร้างสมัยอยุธยา พระอุโบสถแห่งนี้มีใบเสมาสลักหินทรายสีแดง ซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่แค่เพียง 1 หลัก อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพระอุโบสถ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรอขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน
3. พระอุโบสถหลังใหม่
สำหรับพระอุโบสถหลังใหม่ นั้นเป็นที่ตั้งประดิษฐานพระประธานของวัดไทร ทำการก่อสร้างและวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2537 และก่อสร้างจนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2542
4. เจดีย์พระธาตุ
เป็นเจดีย์สีทองที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระครูโสภณธรรมรังษี เป็นเจ้าอาวาส ภายในบรรจุพระสารีริกธาตุ และอัฐิหลวงปู่สุ่นและอัฐิหลวงพ่อพูน กิตติสาโร เจ้าอาวาสองค์ก่อน
5. ศาลเจ้าพ่อเรือง
เป็นที่ประทับของเจ้าพ่อเรือง อันเป็นที่นับถือของชาวจีนย่านบางรัก ภายในจะมีรูปหล่อปูนปั้นของเจ้าพ่อเรือง ในชุดนักรบมือซ้ายถือดาบ โดยตามประวัติเล่าว่าเจ้าพ่อเรือง ได้ลอยมาติดที่ท่าเทียบเรือแถววัดสวนพลู ชาวจีนในแถบนั้นจึงได้สร้างศาลและอัญเชิญท่านมาอยู่ที่ตรอกไก่ (ถนนศรีเวียงในปัจจุบัน) ต่อมาพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งศาลเจ้าพ่อเรืองเดิมจะมีการก่อสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ ชาวจีนที่นับถือท่านจึงอัญเชิญศาลเจ้าพ่อเรืองมาอยู่ที่วัดไทร
ข้อมูล วัดไทร (บางโคล่)
ที่อยู่ : ถนนพระรามที่ 3 (ซอยเจริญราษฎร์ 7) แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 02 289 1292
เว็บไซต์ : watsai.com
Facebook : วัดไทรบางโคล่
วัดไทร บางโคล่ นั้นเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชนมาเป็นเวลานาน ถึงที่ผ่านมาจะเกิดความวุ่นวายต่าง ๆ และได้ข้อยุติลงไปด้วยดีจากมาตรการทางกฎหมาย รวมถึงมาตรการทางสังคมไปแล้ว ซึ่งเราหวังว่า “เสียงระฆัง” นั้นจะสามารถดังก้องเตือนเข้าไปถึงจิตใจให้คนไทยในยุคนี้ ไม่ควรหลงลืมถึงขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยอันเป็นรากเหง้า “ของพวกเราทุกคน” ที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนานครับ สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ